OS one piece
Title : Gun
Pairing : Donquixote Doflamingo X Trafalgar D. Water Law
Genre : Romantic
Rate : NC-18
____________________________________
โดฟลามิงโก้เดินสำรวจตามห้องต่าง ๆ ในพระราชวังอย่างไม่เร่งรีบนัก ชายร่างสูงกว่าสามเมตรกำลังตามหาใครคนหนึ่งที่หายหน้าหายตาไปทั้งวัน
พอถามลูกน้องคนอื่นต่างก็ตอบว่าไม่มีใครพบเห็นคน ๆ นั้นมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ชายหนุ่มบังเอิญได้ยินเสียงกุกกักจากในห้องประชุมสี่ผู้บริหารสูงสุด
ใบหน้าคมเปลี่ยนจากเรียบนิ่งเป็นแสยะยิ้มตามนิสัยของเจ้าตัว
พลางเดินไปเปิดประตูก็พบกับคนที่เขากำลังตามหา
“มาทำอะไรที่ห้องนี้เสียดึกดื่นล่ะ”
คนถูกถามที่อยู่ในห้องหันไปมองเจ้าของประโยคด้วยสายตาเรียบนิ่ง
ก่อนมือขวาจะยกปืนเล็งไปยังศีรษะคนตรงหน้า
สร้างความประหลาดใจให้กับโดฟลามิงโก้จนชายหนุ่มต้องหุบยิ้ม
“เข้ามา แล้วล็อกประตูซะ ดอฟฟี่”
“ฟุฟุฟุ เล่นอะไรของเธอลอว์” ร่างสูงกลับมายิ้มอีกครั้ง
ขายาวก้าวเข้ามาในห้องพร้อมล็อกประตูตามที่อีกฝ่ายบอก แล้วย่างเท้าตรงไปหาคนที่กำลังถือวิสาสะนั่งบนเก้าอี้ของเขา
“หยุดตรงนั้นเลยนะ”
“ทำไม ถ้าไม่หยุดแล้วเธอจะยิงฉันหรอ?”
แต่โดฟลามิงโก้ต้องหยุดฝีเท้าของตนเมื่อเห็นว่าลอว์กดนกสับปืนเตรียมท่าจะระเบิดสมองเขาทันทีหากไม่ทำตาม
“อะไรทำให้คุณคิดว่าฉันไม่กล้า” ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างนึกสนุก
“ไม่เอาหน่าลอว์ เกิดมันลั่นขึ้นมาเดี่ยวคนอื่นก็แตกตื่นกันหมดหรอก”
“ใครสนล่ะ” พูดจบ นิ้วเรียวก็กดเข้าที่ไกปืนทันที
แกร๊ก...
โดฟลามิงโก้นิ่งงันไปครู่หนึ่งกับการกระทำอันน่าหวาดเสียวของร่างโปร่ง
เมื่อรู้ว่าปืนในกระปอกนั้นไม่มีกระสุนบรรจุอยู่ภายในเขาก็โล่งใจ
กระสุนปืนแค่นี้เขาหลบมันพ้นได้สบายอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มแค่ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายเพราะความซนของลูกน้องตนยามวิกาลอันแสนสงบแบบนี้
ร่างสูงรีบพุ่งเข้าไปประชิดคนที่กำลังจ้องเขาอย่างท้าทาย มือหนาคว้าเข้าที่ไหล่บาง
ดันร่างโปร่งชิดกับเก้าอี้ตัวใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดตัวของอีกฝ่าย
“เล่นแรงจังนะ ไม่เจอกันทั้งวันแล้วมาทำแบบนี้ฉันก็ใจหายแย่สิ”
โดฟลามิงโก้ว่าขณะมืออีกข้างที่ว่างอยู่ลูบไล้ต้นขาเรียวใต้กางเกงยีนส์สีดำรัดรูปจนมาถึงเนื้อส่วนที่โผล่พ้นชายเสื้อ
ร่างสูงสังเกตเห็นลอว์มีอาการสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาสัมผัสเฉียดโดนสีข้าง พอเลิกเสื้อให้สูงขึ้นเขาก็พบรอยช้ำม่วงเป็นดวงเบ้อเริ่ม
มองดูก็พอรู้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของศัตรู
เห็นดังนั้นเส้นเลือดพลันปูดขึ้นบนใบหน้าคนตัวสูงด้วยความโกรธเกรี้ยว
“เอ่อ... ช่างมันเถอะดอฟฟี่” ลอว์เห็นโดฟลามิงโก้มีสีหน้าไม่พอใจก็พยายามจะเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายใจเย็นลง
“ใครมันทำร้ายเธอ ลอว์”
“บอกว่าช่างมันไง--”
“บอกมาว่าใครทำ?! ฉันจะไปจัดการฆ่าพวกมันทิ้งซะ!” มือแกร่งเผลอบีบไหล่บางแน่นขึ้นเพราะโทสะที่พุ่งสูง
จนคนตัวเล็กกว่านิ่วหน้า
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ ดอฟฟี่!” ลอว์ตวาดอย่างเหลืออด
เขาไม่ชอบเวลาดอฟฟี่โมโหแล้วไม่ยอมฟังใครแบบนี้ที่สุด
ถ้าปกติลูกน้องมาบังอาจขึ้นเสียงใส่คนอย่างโดฟลามิงโก้ ชายหนุ่มคงไม่ปล่อยเอาไว้แน่
แม้เป็นถึงสี่ผู้บริหารคนอื่นหรือคนในแฟมิลี่ก็ตาม
แต่เพราะลอว์เป็นคนพิเศษยิ่งกว่านั้น...
“เธอหายไปไหนมาทั้งวัน”
“แค่เบื่อวังเลยออกไปเที่ยวเล่นแล้วบังเอิญจับได้ว่ามีคนแฝงตัวมาสืบข้อมูลในเมือง
ฉันเลยจัดการสั่งสอนพวกมันไป แต่ฉันพลาดประมาทฝีมือพวกนั้นไปหน่อย” ร่างโปร่งเล่าอย่างไม่ใส่ใจมันนัก
“...ฆ่าพวกมันไปแล้วใช่มั้ย”
“ชูการ์ทำให้พวกมันกลายเป็นของเล่นไปแล้ว...มั้ง
ฉันจำหน้าพวกมันไม่ได้แล้ว”
“ทำไมไม่ฆ่าพวกมันทิ้งไปซะ”
“โดนแบบนั้นก็ไม่ต่างกับตายทั้งเป็นอยู่แล้ว หยุดถามคำถามฉันสักทีดอฟฟี่ก่อนที่ฉันจะหนีกลับห้องตัวเอง”
ลอว์เดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด
ดวงตาคมหลังกรอบแว่นจ้องมองเด็กเอาแต่ใจทำสีหน้าเบื่อหน่ายใส่เขา สุดท้ายโดฟลามิงโก้ยอมผละออกจากอีกฝ่าย
ร่างโปร่งยันกายขึ้นมานั่งไขว่ห้างก่อนนิ้วเรียวจะหมุนปืนในมือเล่น
“ขโมยปืนของฉันมาเล่นแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะ”
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กน้อยจากเมืองสีขาวเมื่อสิบสี่ปีก่อนจะโตมากล้าปีนเกลียวเขาได้ขนาดนี้ ของใช้ส่วนตัวของเขาไม่เคยมีใครในแฟมิลี่กล้าแตะต้องเลยด้วยซ้ำหากเขาไม่อนุญาต
อีกทั้งคำพูดคำจาที่ฟังดูไม่มีความเคารพกันเลยแม้แต่นิดเดียว
จะโทษลอว์ก็ไม่ได้ เพราะเขาเองต่างหากที่เป็นคนตามใจอีกฝ่ายอยู่ตลอด…
ลอว์มองลวดลายบนปืนด้วยความสนอกสนใจ
ลูบผ่านส่วนที่เป็นทองคำแท้อย่างทะนุถนอม
“ฉันชอบมันมากเลยล่ะ ดอฟฟี่ ขอฉันได้ไหม”
น้ำเสียงลูกแมวอ้อนเปล่งออกมาจากเด็กดื้อตรงหน้า ลอว์มักจะใช้ลูกไม้นี้เสมอเมื่อต้องการอะไรจากเขา
และโดฟลามิงโก้เองก็แทบไม่เคยปฏิเสธมันได้เลย
“ฟุฟุ คงให้ไม่ได้หรอก อันนี้มันปืนสุดโปรดของฉัน ถ้าเธออยากได้เดี่ยวฉันจะสั่งทำขึ้นมาใหม่ให้”
“ไม่ ฉันอยากได้อันนี้”
ว่าแล้วคนเอาแต่ใจก็นำกระบอกปืนมาจรดที่ริมฝีปากบาง ก่อนจะใช้ลิ้นเลียมันตั้งแต่ปลายถึงด้ามปืนช้า
ๆ ราวกับเป็นไอศกรีมรสเลิศ
ร่างสูงตกตะลึงอีกครั้งกับการกระทำอันไม่คาดคิดของอีกฝ่าย
จ้องมองลิ้นเล็กนั่นลากผ่านส่วนปลายของกระบอกปืน
จากนั้นก็ดันมันหายเข้าไปในปากอิ่ม ค่อย ๆ ดึงมันออกมา
น้ำใสเคลือบวัตถุโลหะเชื่อมเป็นสายติดกับกลีบปากบาง ใบหน้าคมขึ้นสีแดงฝาด
ดวงตาคู่สวยกำลังจ้องมองชายร่างสูงอย่างต้องการ...
“โฮ่ย... เอาแบบนี้จริงหรอ” โดฟลามิงโก้เลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย ความรู้สึกปวดหนึบแถวเป้ากางเกงเริ่มปะทุขึ้น
เจ้าสิ่งที่เคยสงบกำลังตื่นตัวเพราะเด็กขี้ยั่วตรงหน้า
ลอว์เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มชอบใจ ด้ามปืนหายเข้าไปในปากอีกครั้ง
เรียวลิ้นขยับชิมรสชาติของโลหะดูน่าเอร็ดอร่อย ในหัวกำลังจินตนาการว่ามันคือแท่งเนื้อร้อนของบอสตัวเอง
“อ...อึอ... อืม...”
“หยุดเลยนะลอว์...” ร่างสูงอยากรอดูว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรต่อไป แต่พอได้ยินเสียงครางกระเส่าของร่างโปร่งทำให้ความอดทนของเขาใกล้พังทลายลงเต็มที
คนถูกสั่งไม่ยอมหยุด “อืม... ทำแบบนี้แล้วคุณยังจะเอามันคืนอีกไหม”
เสียงเล็กครางหวานดังเป็นระยะปนกับเสียงจ๊วบจ๊าบ
ในที่สุดโดฟลามิงโก้ก็ทนไม่ไหวจับคนตัวบางนอนราบไปกับเก้าอี้ ลอว์จะดึงเจ้าวัตถุแท่งยาวออก
แต่โดฟลามิงโก้กลับแย่งปืนมาก่อนจะดันมันกลับเข้าไปในปาก กระแทกผนังลำคอคนใต้ร่าง โดฟลามิงโก้ขยับปืนเข้าออกโพรงปากอุ่นหลายครา
ลึกและรุนแรงเสียจนลอว์แทบจะสำลัก น้ำใสเอ่อท่วมดวงตาสีหม่นด้วยความทรมาน มือบางกำข้อมือคนตัวใหญ่เพื่อบอกให้หยุด
แต่ดูเหมือนจะไร้ผล
คนอย่างโดฟลามิงโก้ชื่นชอบการทรมานเหยื่อของตัวเองเป็นที่สุด
และลอว์ได้เผลอไปปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนของเขาโดยไม่รู้ตัว
“เธอทำให้ฉันอยากทำแบบนี้เองนะลอว์”
“ฮะ... ฮื้อ! อ... อุก... อะ”
วัตถุแข็งเสียดสีโดนกลีบปากอิ่มจนเกิดแผล เลือดสีสดไหลเป็นทางจากมุมปากปนกับน้ำลายใส
ลอว์รู้สึกปวดกรามและเจ็บคอไปหมด ร่างโปร่งพยายามสะบัดหน้าหนีแต่กลับถูกล็อกคางเอาไว้แน่น
ดวงตาหลับปี๋ เล็บแหลมจิกเข้าที่ข้อมือหนาอย่างแรง
โดฟลามิงโก้หาได้สนใจความเจ็บราวกับถูกแมวข่วนตรงข้อมือไม่
อ่าใช่... แบบนี้แหละ สีหน้าทรมานแบบนี้ยิ่งดี
เห็นแล้วยิ่งอยากทำลายมากขึ้น มากขึ้นไปอีก!
“แค่สีหน้าของเธอตอนนี้ก็ทำให้ฉันมีอารมณ์ขนาดนี้เลยนะลอว์” แก่นกายของร่างสูงตื่นตัวเต็มที่จนรู้สึกอยากปลดปล่อยมันเข้าไปในตัวลอว์เสียเดี่ยวนี้
มือแกร่งจัดการปลดกระดุมกางเกงร่างเล็กแล้วกระชากผ้าเนื้อดีออกไปพร้อมกับชั้นในสีเข้ม
ลอว์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาเรียวหนีบเข้าหากันอัตโนมัติเมื่อส่วนล่างไม่เหลือสิ่งใดไว้ปกปิด
“อึก อ...อุด... อื้อออ!”
“หึๆ ฉันหยุดก็ได้” โดฟลามิงโก้ยอมดึงวัตถุโลหะออกจากปากบาง เขวี้ยงมันทิ้งไปอีกทางอย่างไม่ไยดี
ลอว์สำลักไอออกมาทันทีเมื่อคนตัวสูงหยุดกระทำทรมานตน แต่ไม่ทันไรร่างของเขาก็ถูกพลิกกลับหลัง
หันหน้าเข้าหาพนักเก้าอี้ สะโพกเปลือยเปล่าถูกยกขึ้นสูง เผยให้เห็นช่องทางสีสวยที่ปิดสนิท
“มาเริ่มบทรักกันเลยดีกว่าเด็กน้อย”
มือหยาบและใหญ่ลูบคลำแถวหน้าท้องแบนราบ
ความรู้สึกสากกร้านผ่านผิวเนื้อทำให้ลอว์ต้องเกร็งหน้าท้องเอาไว้ สัมผัสหยาบโลนลากต่ำไปยังบริเวณต้นขาด้านในซึ่งเป็นจุดอ่อนไหวหนึ่งของร่างโปร่ง
“...อ๊ะ...ฮะ”
เสียงครางแหบพร่าและเบากว่าคราแรกที่เปล่งออกเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับ ช่วงล่างพลันกระตุกเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัสเฉียดโดนส่วนกลางลำตัว
“ฟุฟุฟุ ฉันยังไม่ทันได้จับเจ้าตัวเล็กของเธอเลยก็ครางออกมาแล้วหรอ”
ไอ้แก่บ้า!
ลอว์อยากจะหันหน้าไปตวาดใส่บอสตัวเองเหลือเกินที่แกล้งเขาแรงถึงขนาดนี้
แต่ลำคอยังเจ็บอยู่ลอว์จึงไม่สามารถตะโกนเสียงดัง ได้แต่ส่งสายตาดุใส่
สำหรับโดฟลามิงโก้มันช่างดูเหมือนแมวตัวน้อย ๆ กำลังขู่ฟ่อเสียมากกว่า
สัตว์เลี้ยงที่พยศไม่เชื่อฟังเจ้านาย ต้องถูกสั่งสอนเสียหน่อย...
อุ้งมือหนากำรอบแก่นกายของร่างเพรียว ขยับขึ้นลงจนมันแข็งชูชัน
กายเล็กสั่นเทิ้มด้วยความรู้สึกเสียวกระสันที่เพิ่มขึ้น สองแก้มแดงก่ำไปถึงหูราวกับมะเขือเทศสุก
“อ๊า... ด--ดอฟฟี่ อาห์”
คนตัวสูงโน้มตัวลงต่ำมาคลอเคลียแถวพวงแก้มเนียน ลิ้นยาวไล่ชอนไชแถวใบหู
เลื่อนต่ำลงมาแถวต้นคอ มือหยาบอีกข้างเอื้อมมาจับคางมนเอียงให้สะดวกต่อการสูดดมความหอมจากอีกฝ่าย
ก่อนจะฝากฝังรอยรักมากมายไว้บนคอเรียวยาวมาจนถึงไหล่บาง สองนิ้วของโดฟลามิงโก้ขยับเข้าไปทักทายลิ้นเล็ก
กวาดทั่วโพรงปากอุ่นจนนิ้วชุ่มไปด้วยน้ำลายเหนียว ร่างสูงยังคงขยับแก่นกายของคนใต้ร่างขึ้นลงเป็นจังหวะจนสติลอว์แทบจะเตลิด
“อา... มะ...อื้มมม”
โดฟลามิงโก้ดึงนิ้วออกจากปากเล็กมาสะกิดตรงช่องทางหลัง
ก่อนจะดันมันเข้าไปทีเดียวถึงสองนิ้ว สิ่งแปลกปลอมลุกล้ำเข้ามาภายในกะทันหันโดยที่ลอว์ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
ดวงหน้าหวานซุกลงไปในเก้าอี้นุ่ม มือบางกำแน่นหวังให้มันช่วยบรรเทาความเจ็บ
“อ๊า! ฮึก... อ๊ะ! ดอฟ...ฟี่... จ...”
“เจ็บงั้นหรอคนดี?”
แค่ถามไปงั้น นิ้วยาวขยับเข้าออกหนักหน่วงจนร่างเพรียวขยับไปตามแรง
ควานลึกจนกระทบโดนจุดกระสัน ความเจ็บคราแรกเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดี ขาเรียวสั่นอย่างอ่อนแรง โดฟลามิงโก้จงใจกระแทกจุดนั้นซ้ำ ๆ เรียกเสียงครางสูงออกจากปากอิ่ม
ไม่สนว่าตัวเองจะยังเจ็บคออยู่หรือไม่
ถูกปรนเปรอจากทางด้านหน้าและหลังพร้อมกันแบบนี้ เขาจวนจะเสร็จอยู่แล้ว!
“ดอฟ--ฟี่... อ๊า! พอ...”
“หืม?”
“ส...อ๊ะ! ใส่ของคุณเข้ามา อื้อ...”
“ฟุฟุฟุ รับบัญชา” มือหนาผละออกจากแก่นกายร่างโปร่ง
ปลดกางเกงตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แท่งเนื้อขนาดใหญ่ปรากฏสู่ภายนอก เขาจับมันจ่อช่องทางเล็กที่น่าจะยังไม่พร้อมเท่าไหร่
ดันมันเข้าไปเพียงส่วนหัวก็ทำให้ร่างเล็กกว่ามากกระตุกสั่น
“อึก...อะ...” น้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่สวยเป็นสาย
มันเจ็บยิ่งกว่าสองนิ้วเมื่อกี้มาก
เข่าอ่อนระทวยไม่สามารถทรงตัวไว้ได้หากไม่มีมือแกร่งช่วยประคองไว้
“ไม่ไหวก็บอกมาสิลอว์”
โดฟลามิงโก้หัวเราะในลำคอ เขารู้ดีกว่าร่างโปร่งไม่มีวันแสดงความอ่อนแอให้เห็นเขาเด็ดขาด และนั่นคือสิ่งที่ทำให้โดฟลามิงโก้ชื่นชอบในตัวลอว์
ถ้ายอมเชื่องง่าย ๆ มันก็ไม่สนุกน่ะสิ
“อ๊ะ... แค่นี้ไม่ทำให้ฉันรู้สึกหรอก”
ทำเป็นเก่งไปเถอะไอ้เด็กน้อย
“งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ”
จบประโยค สะโพกหนากระแทกแก่นกายเข้าไปในช่องทางเล็กจนสุดโคน ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสูง
เจ็บและจุกเสียจนร้องไม่ออก ความรู้สึกราวกับร่างกายฉีกขาดออกจากกัน ของเหลวสีสดไหลจากโพรงสีสวยมาถึงต้นขาเรียว
กลิ่นคาวเลือดของร่างเล็กแตะจมูกทั้งคู่
หยาดน้ำตามากมายหยดใส่เก้าอี้เป็นดวง โดฟลามิงโก้ก้มลงมาพรมจูบซับน้ำตาให้
เขาไม่ขยับมันในทันที แม้ความต้องการของเขาจะถึงขีดสุดแล้วก็ตาม
ในความป่าเถื่อน โหดร้ายก็ยังมีความอ่อนโยนมอบให้...
“อ่าห์... ผ่อนคลายหน่อยลอว์” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู
“ฮึก... ฮือ” ไม่ไหว... ของโดฟลามิงโก้มันใหญ่เกินไป พอขยับตัวแม้แต่นิดเดียวร่างกายเขาก็ยิ่งเกร็ง
ร่างสูงครางต่ำเพราะความคับแน่นของผนังด้านในที่ตอดรัดท่อนเนื้อ มือหยาบขยับมารูดแก่นกายลอว์อีกครั้ง
มอบความเสียวสวาทปนความเจ็บปวด ลอว์เริ่มแยกแยะไม่ออกว่าควรจะรู้สึกแบบไหนมากกว่ากัน
เมื่อกล้ามเนื้ออ่อนนุ่มคลายตัว โดฟลามิงโก้ก็เริ่มสวนสะโพกเข้าออกช้า
ๆ ให้ร่างโปร่งเคยชินกับการสอดใส่
“อา... ข้างในเธอนี่มัน... สุดยอดเสมอเลยนะ” โดฟลามิงโก้เริ่มเลือกไสสะโพกแรงขึ้นตามอารมณ์ความต้องการที่ชักนำ
ดึงแก่นกายออกเกือบถึงปลายแล้วกระแทกกลับจนสุดเป็นจังหวะ
“อื้อ! อ๊า! บ...เบา ดอฟฟี่... อา...”
“ฉันทนไม่ไหวแล้วลอว์”
เอวสอบรัวถี่รุนแรงอย่างไร้ปราณี
ความแข็งขืนถูกชุ่มด้วยของเหลวสีสดช่วยลดแรงเสียดสีกับผนังด้านใน ช่องทางนุ่มเริ่มปรับเข้ากับขนาดของร่างสูง
ลอว์หลงลืมความเจ็บก่อนหน้าทั้งหมด เหลือแต่เพียงความสุขสมที่อีกฝ่ายมอบให้
เสียงเนื้อกระทบกันดังระงมไปทั่วทั้งห้อง
ผสานกับเสียงครางแหลมยามกายหนากระแทกท่อนเนื้อโดนจุดกระสันภายใน มือหนาแหวกเนื้อแก้มก้นแยกออก
เชื่อมกายทั้งคู่ให้แนบชิดยิ่งกว่าครั้งไหนที่เคยทำ
“อ๊า! อ๊า! ตรงนั้น! อื้ออออ! ล...ลึกอีก อ๊ะ!”
ลอว์ไม่รู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกมา สมองมันว่างเปล่าไปหมด ปล่อยให้กามอารมณ์นำพาร่างกายตอบรับเข้ากับอีกฝ่าย
รู้เพียงว่าเขาอยากแนบชิดกับโดฟลามิงโก้มากกว่านี้
อยากให้อีกฝ่ายสัมผัสเขามากกว่านี้...
“ลามกจังนะ” โดฟลามิงโก้หัวเราะแผ่วเบา จับใบหน้าสวยหันข้าง โน้มตัวลงก่อนจะช่วงชิงริมฝีปากอิ่ม
สอดลิ้นเกี่ยวกระหวัดผลัดกับดูดดื่มกลีบปากบางจนบวมแดง
ขณะที่ช่วงล่างยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดี
ร่างโปร่งจูบตอบกลับอย่างเงอะงะเพราะสติเริ่มเลือนลอย
ไม่นานร่างสูงก็ผละริมฝีปากออก
ฟันคมย้ายมาขบกัดผิวเนียนอย่างมันเขี้ยว มือหนึ่งแวะมาหยอกเย้ากับยอดอกคนตัวบางเล่น
“อือออ อ๊ะ! ดอฟฟี่!”
“ครางชื่อฉันดัง ๆ อ่า...”
“ดอฟฟี่... ดอฟฟี่! อ๊า!”
โดฟลามิงโก้จ้องมองเอวบางขยับสวนท่อนเนื้อของเขา รวมถึงรอยดูดมากมายที่เขาตีตราทิ้งไว้
ขนาดมองจากด้านหลังลอว์ยังเร่าร้อนได้ขนาดนี้... อดไม่ได้ที่จะรัวสะโพกเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง
ราวกับต้องการทำลายร่างนี้ให้บอบช้ำ
“อ๊า...! อึก!” ร่างโปร่งสั่นไหวไปตามแรงที่โถมกระหน่ำใส่ ฟันเผลอกระทบโดนกลีบปากล่างจนเลือดซิบ
“เธอสุดยอดเหลือเกินลอว์... อาห์ ฉันอยากจะบดขยี้เรือนร่างสวย ๆ
นี่ให้แหลกทุกคืนเลย”
ไม่ใช่ว่าคุณก็ทำแบบนั้นทุกครั้งที่เราทำกันหรือไง!
ลอว์คิดในใจ ตอนนี้เขาทำได้แค่เปล่งเสียงครางลั่นสู้กับเสียงเหนอะหนะภายในช่องทางตน
ในที่สุดบทรักก็ดำเนินมาถึงปลายทาง ทั้งคู่เริ่มอยากปลดปล่อยเต็มที
ลอว์หอบหายใจหนักหน่วง รู้สึกเหมือนข้างในตัวจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ
ร่างโปร่งหวีดร้องเสียงดังจังหวะเดียวกับน้ำสีขุ่นถูกปลดปล่อยออกจากแก่นกาย
โดฟลามิงโก้เคลื่อนมาจับสะโพกมนแน่น ขยับเข้าออกถี่เร็วเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะฉีดอัดของเหลวเข้าไปในช่องทางรัก
คนตัวบางสั่นระริกยามร่างสูงถอนกายออก น้ำเชื้อปนกับเลือดของร่างโปร่งไหลขย้อนออกจากโพรงอุ่น
ลอว์ปล่อยให้ช่วงล่างทิ้งลงไปบนเก้าอี้นุ่มเมื่อไร้มือแกร่งช่วยประคอง
เรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบหายไปในพริบตา ดวงตาคู่สวยเลื่อยลอย ปากบวมฉ่ำเผยอออกเพื่อหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด
เม็ดเหงื่อประปรายไหลบนใบหน้าและตามตัว
โดฟลามิงโก้จัดการกับตัวเองเสร็จสรรพ พลางเดินไปหยิบกางเกงของร่างโปร่งและปืนคู่ใจ
เขามองวัตถุแท่งยาวที่ยังเหลือคราบน้ำลายใสครู่หนึ่งก่อนจะแสยะยิ้ม
“ที่จริงฉันน่าจะลองใส่มันเข้าไปในตัวเธอดูนะ”
ถ้าทำแบบนั้นฉันโกรธคุณแน่ ดอฟฟี่...
เจ็บคอ เจ็บแผลชะมัด...
ให้ตายเถอะ
ลอว์เหนื่อยจวนจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แรงจะลืมตาก็แทบจะไม่มี ร่างสูงเดินมาถอดผ้าคลุมขนนกสีชมพูปกปิดเรือนร่างแทนสวยไว้
ก่อนจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมาทั้งแบบนั้น
ความอุ่นและนุ่มของเนื้อผ้าชั้นดีทำเอาลอว์แทบจะหลับทั้งที่ยังถูกคนตัวสูงอุ้มอยู่
โดฟลามิงโก้ก้มลงมาจุมพิตหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน
เป็นไบโพล่าร์หรือไงตาแก่นี่...
ใบหน้าครึ่งล่างถูกปิดด้วยผ้าคลุม
ร่างโปร่งลอบอมยิ้มไม่ให้อีกฝ่ายเห็น ศีรษะทุยซบบนอกแกร่ง
ก่อนสติจะดับไป จู่ ๆ ลอว์ก็นึกถึงเรื่องในวันนี้ขึ้นมา...
.
.
.
.
.
.
ตรอกแห่งหนึ่งที่ไร้ผู้คนสัญจร ลอว์บังเอิญไปได้ยินแผนการแฝงตัวเข้าไปในโรงงานสไมล์ของทหารเรือชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งเข้า
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายได้ดำเนินการตามแผนจึงเกิดการปะทะกัน
การต่อสู้กินเวลาไม่นานนักเพราะทหารที่พบมียศสูงถึงแค่นาวาเอก
อาจจะได้รับบาดเจ็บไปบ้าง แต่ก็ไม่หนักหนา ภายหลังจากส่งพวกนั้นให้ชูการ์จัดการต่อ
เขาดันพบชายร่างสูงที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับบอสของเขา...
คนที่ทรยศแฟมิลี่และหนีออกจากกลุ่มเมื่อ 11 ปีก่อน...
โคราซอน...
มือบางดึงปีกหมวกปิดหน้าครึ่งบนของตัวเอง คิดจะเดินหลบไปอีกทาง
ที่ไหนได้เขากลับถูกมือหนากระชากเข้าไปในตรอกอีกแห่งอย่างรวดเร็วเสียไม่ทันได้ขัดขืน
“Silent”
ร่างโปร่งรู้ดีว่ามันคือพลังผลปีศาจของอีกฝ่าย
พลังที่สามารถลบเสียงของทุกสิ่งออกไปได้
ชายที่เขาเรียกว่าโคราซอนดันหลังเขาติดกับกำแพง
ลอว์ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายทำแบบนี้ทำไม ก่อนจะเงยหน้าหวังบั่นศีรษะ คิดตัดกำลังอีกฝ่ายด้วยพลังผลโอเปะโอเปะ
แต่เขาก็ไม่ได้ทำเพราะนัยน์ตาสีแดงที่กำลังจ้องเขาอย่างโศกเศร้า
“...ลอว์! ฉันดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอเธออีก”
“...”
“เธอโตขึ้นมากเลยนะ ตอนนี้ก็ 24 แล้วใช่มั้ย
ฮ่าๆ”
“มาทำไม...”
โคราซอนเงียบไปเมื่อถูกตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
มือแกร่งคว้าไหล่บางไว้แน่น ร่างโปร่งสะบัดมันทิ้งอย่างแรง
คนทรยศหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะพาเธอหนีอีกครั้งลอว์ ไปกับฉันตอนนี้ เราพาทหารเรือมาด้วยหลายคน
ไว้ใจได้เล--”
“มีกันกี่คนล่ะ?”
“...5 คน รวมฉันด้วย”
“หึ... ถ้าพวกนั้นฉันจัดการเก็บไปเรียบร้อยแล้ว”
คนตัวสูงหน้าถอดสี “ว่าไงนะ...”
“ตามนั้น และอีกไม่นานคุณก็จะลืมพวกเขาไปเอง”
ความเงียบก่อตัวรอบคนทั้งสอง
ท่าทีไร้หัวใจของคนอ่อนกว่าตรงหน้าทำเอาโคราซอนยิ่งรู้สึกผิดหนักเข้าไปใหญ่
เขาได้แต่โทษตัวเองมาตลอดที่อ่อนแอ...
ไม่สามารถปลดปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระจากพี่ชายของเขาได้
ตอนที่เขาลักพาตัวลอว์และตามหาหมอมารักษา
พอทราบข่าวผลโอเปะโอเปะแล้วรีบไปชิงมันมาจากโจรสลัดกลุ่มหนึ่ง
เขาช้าไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น... ลูกน้องโดฟลามิงโก้ดันตามหาตัวลอว์เจอ แม้พวกนั้นจะไม่ได้ทำร้ายเด็กคนนี้
แต่หากลอว์ไม่ได้กินผลโอเปะโอเปะ ยังไงอีกไม่นานก็ต้องตาย...
แผนทุกอย่างที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า... โคราซอนรู้ดีว่ายามนั้นเขาไม่สามารถพาลอว์หนีได้อีกแล้ว
ร่างสูงตัดสินใจนำผลปีศาจไปวางไว้บนกองหีบสมบัติ ทุกคนในดองกีโฮเต้แฟมิลี่ต่างก็กินผลปีศาจกันหมดแล้ว
เพราะงั้นลอว์ต้องเป็นคนเดียวที่ได้กินมัน
จากนั้นเขาก็ได้กระทำสิ่งที่แย่ที่สุดคือการหนีไปเพียงคนเดียว...
“...ลอว์ ฉันขอโทษ... ขอโทษ” ร่างสูงสะอื้นไห้อย่างไม่อายคนตรงหน้า
“ไม่จำเป็นหรอก” ลอว์เดินออกไปอีกทาง แขนบางถูกมือหนาคว้าเอาไว้
“...”
“ผมว่าคุณควรกลับไปก่อนจะถูกจับได้ อย่าคิดทำอะไรเสี่ยงชีวิตเด็ดขาด”
“...”
“คุณเคยหนีได้แล้ว จะหนีคราวนี้ก็ช่วยไปให้ไกลจากพวกเรา...
และอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก”
โคราซอนหมายจะโจมตีเข้าที่หน้าท้อง แต่ลอว์ไหวตัวทัน ร่างโปร่งกางรูมเล็ก
ๆ ขึ้น ใช้ท่าเคาท์เตอร์ช็อกใส่อีกฝ่ายจนล้มพับในทีเดียว
“...”
“เจอกันคราวหน้า ผมจะไม่ไว้ชีวิตคุณอีก”
เขาปล่อยร่างสูงทิ้งไว้ตรงนั้นแล้วกลับมาที่วัง จนตอนนี้เขาก็ไม่ได้ข่าวว่าอีกฝ่ายถูกจับตัวได้หรือกระทั่งลืมเรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่าย
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ถือว่าดี
ใช่แล้ว... ลอว์ไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้โดฟลามิงโก้ฟัง
อย่างน้อยโคราซอนเคยมีพระคุณต่อเขา
เป็นคนเดียวที่ร้องไห้อย่างเห็นใจให้กับเด็กปีศาจสีขาวคนนั้นในอดีต
มันสายไปแล้วโคราซอน...
ก็พี่ชายของคุณ... เป็นเจ้าของชีวิตและใจของผมทั้งหมดแล้วน่ะสิ
_____________ END ______________
*TALK*
จุดๆนี้ บอกเลยค่ะว่าเขินมากกกกกกก เราแต่งอะไรไปปปปป (///-///)
อยากแต่งให้หมอโดนดอฟฟี่แกล้งแบบนี้มานานแล้วค่ะ ในที่สุดก็ได้แต่ง อิย์
อนึ่ง อยากให้อ่านเอา sin เอา porn เฉยๆค่ะ555 เพราะเนืื้อเรื่องเกี่ยวกับคุณโคราช่วงหลังเราแค่กาวขึ้นมาเพราะอยากให้ลอว์ออกแนวรว้ายๆ ค่ะ อันนี้ยังรว้ายไม่สุดนะคะ หุๆ
เพิ่มเติมนิสนึงคือคุณโคราไม่ได้ฝีมือกากกว่าลอว์ขนาดโดนจัดการง่ายๆ แต่คุณโครากำลังช็อกค่ะเลยทำอะไรไม่ถูกนัก
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ ทุกท่านคือกำลังใจ ทำให้เรายังอยากแต่งให้พวกคุณอ่าน
อ่านแล้วขัดใจหรือเจอคำผิดบอกเราได้นะคะ
ข่อมค่าาาาาา
No comments:
Post a Comment